พระพิฆเนศปาง เอกขเนก สวยงามและหายาก ปี 2540
" วัดอนาลโย จ.พะเยา " สร้างเพียง 29 องค์ ขนาด กว้าง 55 ซม. สูง 55 ซม.
อธิฐานจิตโดย พระอาจารย์ไพบูลย์ สุมงคโล
องค์หมายเลข 27 และ 29

*** วัดอนาลโย ***

สวยสง่า...วัดอนาลโยพระองค์โตโอเห็นไกลพุทธลีลาใหญ่เยือนพะเยาเขาวัดงาม....ทางขึ้นวัด อนาลโย จ.พะเยา



ไหว้พระสาธุเจ้าใต้ร่มเงาพระธรรมารำลึกคำสอนค่าเคารพองค์ทรงพระคุณ






ประวัติของวัดอนาลโยทิพยาราม


นอกจากนี้วัดอนาลโยทิพยารามยังเป็นวัดประจำปีเกิดของผู้เกิดปีปีมะเส็ง มีสัญลักษณ์เป็นรูป "งูเล็ก" สำหรับพระธาตุประจำปีเกิดนั้นอยู่ไกลนัก นั่นคือ พระมหาเจดีย์พระพุทธคยา ประเทศอินเดีย อันเป็นปูชนียสถานที่สำคัญมาแต่โบราณเนื่องจากสถานที่ประดิษฐานจะอยู่ไกล คนโบราณจึงใช้เจดีย์เจ็ดยอดเมืองเชียงใหม่แทนและมาภายหลังมีการจำลองพระมหาเจดีย์ฯ มาสร้างขึ้นที่วัดอนาลโย (พะเยา) ซึ่งทำให้คนมีศรัทธา จะไปนมัสการได้ง่ายขึ้น

ประวัติของวัดอนาลโยทิพยารามก็น่าสนใจครับ ผมจะเล่าคร่าว ๆ ให้ฟังนะครับ เริ่มจาก พระอาจารย์ ไพบูลย์ สุมังคโล
ขณะนั้นท่านอยู่ที่วัดรัตนวนาราม ท่านได้มีปรากฎการณ์เห็น ทรายทองไหลลงมาสู่วัดเป็นสาย รังสี แสงของทรายทองที่ไหลพั่งพรูราวกับสายน้ำนั้นอาบวัดทั้งวัด
จนแทบจะกลายเป็นวัดทองคำ ท่านมองตามลำ แสงสีทองไปก็เห็นเขาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกว๊านพะเยานั่นเอง จากนั้นได้มีโยมมาอาราธนาให้ไปดูสถานที่สำคัญ
และแปลกประหลาด เพื่อจะได้สร้างสำนักสงฆ์ไว้เป็นที่บำเพ็ญกุศลของชาวบ้าน เป็นที่ ๆ ชาวบ้านมักจะเห็นแสง สว่างเป็นดวงกลมลอยไปมาอยู่บนดอยสูง
แสงนั้นดูสว่างเรืองรอง บางทีก็สว่างจ้าเป็นสีเหลืองสดอาบทั้งดอยราว กับกลายเป็นดอยทองคำ เหตุการณ์เหล่านี้มักจะปรากฏในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันพระ 8 หรือ 15 ค่ำ
เป็นต้น หลังจากที่พิจารคณาดูสถานที่แล้ว เห็นว่าเป็นสถานที่สงบเหมาะสมแก่การเจริญเตตาภาวนาเป็นอย่างยิ่ง ควรที่จะสร้างเป็นสถานที่พักปฏิบัติธรรม
ดังนั้นที่นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของวัดอนาลโยทิพยารามยังไงล่ะครับ
ส่วนที่มาของชื่อวัด อนาลโยทิพยาราม ก็มาจากเมื่อปี พ.ศ.2525ท่านพระอาจารย์ได้ตัดสินใจมาอยู่ที่ นี่และเริ่มสร้างวัด ท่านได้ นิมิตว่ามีคนรูปร่าง ดำ สูงใหญ่มาบอกว่า
หากท่านอาจารย์จะมาอยู่ที่นี่ ก็มาอยู่ได้ แต่ขอให้ตั้งชื่อวัด เป็นวัดหลวงปู่ขาว ซึ่งท่าน พระอาจารย์ก็ ไม่ขัดข้องประการใด ดังนั้นจึงได้เป็นชื่อ วัดอนาลโยขึ้นมา เพราะท่าน มีนามว่า
หลวงปู่ขาว อนาลโย ผู้เป็นประธานสงฆ์ อยู่ ณ วัดกลอง เพล จ.อุดรธานี และยังมี พระพุทธลีลา หรือพระยืนที่ท่านตั้งใจจะ สร้างขึ้น ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาที่สูงใหญ๋ที่สุด
สร้างไว้บนยอด เขาตรีเพชร มีความสูง 25 เมตร กว้าง 6 เมตร น้ำหนักรวม 254 ตัน พระองค์นี้ใน ตอนแรกได้สร้างเป็นชิ้น ๆ ก่อน แล้วค่อยนำมาประกอบ ขึ้น ซึ่งต้องใช้ความอดทน มากทีเดียว
กว่าจะได้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง อย่างที่เราได้เห็นกันอยู่นี้
นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญและน่าท่องเที่ยวอยู่อีกหลายแห่งภายในวัดด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น สวน ลุมพินีวัน (จำลอง) สถานที่ประสูติของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า สระโบกขรณี (จำลอง)
สถานที่ถวายการสรงน้ำ เมื่อแรกประสูตร เจดีย์พุทธคยา (จำลอง) ซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ ต้นพระศรีมหาโพธิ ที่ตรัสรู้ด้านหลังองค์เจดีย์ พระสถูปเจดีย์ (จำลอง)
สถานที่ปฐมเทศนา หรือจะเป็น เจ้าแม่กวนอิม ก็มีนะครับ ที่นี่ได้รวมเอาประติมากรรม ต่าง ๆ เข้ามาไว้รวมกัน ซึ่งเหมาะแก่การทำสมาธิ หรือพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
อ้อ…แล้วอีกที่หนึ่งที่จะขาดเสียมิได้คือ พระตำหนัก "ภูตะวัน" แต่ที่นี่ห้ามบุคคลภายนอกผ่านขึ้นไปนะครับ เพราะที่ตำหนักนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อเป็นที่ประทับในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในจังหวัดพะเยา